หมอประจำบ้าน: กระเพาะอาหารทะลุ (Gastrointestinal Perforation) กระเพาะอาหารทะลุ (Gastrointestinal Perforation) เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อันตรายถึงชีวิต เนื่องจากเกิดรูรั่วขึ้นที่ผนังกระเพาะอาหาร ทำให้ของเหลว กรดในกระเพาะอาหาร และเชื้อแบคทีเรียไหลเข้าสู่ช่องท้อง ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis) และ การติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) ได้
สาเหตุหลักของกระเพาะอาหารทะลุ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการเกิดกระเพาะอาหารทะลุคือการมีแผลในกระเพาะอาหารรุนแรงที่ไม่ได้รับการรักษา:
แผลในกระเพาะอาหารที่รุนแรง (Peptic Ulcer): เป็นสาเหตุหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผลที่ไม่ได้รับการรักษา ทำให้แผลลึกและทะลุผ่านผนังกระเพาะอาหาร
การใช้ยาบางชนิด: การรับประทานยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน อย่างต่อเนื่องหรือในปริมาณมาก โดยไม่มีการป้องกันกระเพาะอาหาร
การติดเชื้อแบคทีเรีย: การติดเชื้อ Helicobacter Pylori (H. Pylori) เป็นสาเหตุหลักของแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งนำไปสู่การทะลุได้
มะเร็งกระเพาะอาหาร: ก้อนมะเร็งอาจกัดกร่อนผนังกระเพาะอาหารจนทะลุได้
อุบัติเหตุหรือบาดเจ็บรุนแรง: การได้รับบาดเจ็บที่ช่องท้องอย่างรุนแรง
อาการที่ต้องสงสัยกระเพาะอาหารทะลุ
ภาวะกระเพาะอาหารทะลุถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่มีอาการรุนแรงมาก และต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที:
ปวดท้องรุนแรงอย่างกะทันหัน: มักเป็นอาการเด่นที่สุด โดยเฉพาะบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือช่องท้องส่วนบน อาการปวดมักจะรุนแรงกว่าอาการปวดท้องที่เคยเป็น
ท้องแข็ง: กล้ามเนื้อหน้าท้องจะเกร็งและแข็งผิดปกติเมื่อถูกสัมผัส (อาการท้องแข็งแบบกระดาน)
ไข้สูงและหนาวสั่น: เป็นสัญญาณของการติดเชื้อในช่องท้อง (เยื่อบุช่องท้องอักเสบ)
คลื่นไส้และอาเจียน
อาการช็อก: หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออก ตัวเย็น ความดันโลหิตต่ำ (ในกรณีที่มีการติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง)
การรักษา
กระเพาะอาหารทะลุถือเป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาแบบ ฉุกเฉินทางการแพทย์ โดยมีแนวทางการรักษาดังนี้:
การผ่าตัดฉุกเฉิน: เป็นการรักษาหลัก แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อ เย็บปิดรูรั่ว ที่ผนังกระเพาะอาหาร และทำความสะอาดช่องท้องเพื่อกำจัดเศษอาหารและกรดที่รั่วออกมา ป้องกันการติดเชื้อในช่องท้อง
การให้ยาปฏิชีวนะและสารน้ำ: แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ เพื่อควบคุมการติดเชื้อ และให้สารน้ำเกลือเพื่อรักษาภาวะช็อกและความดันโลหิตต่ำ
การรักษาสาเหตุ: หลังจากการผ่าตัด ผู้ป่วยจะต้องได้รับการรักษาเพื่อกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดแผล เช่น การให้ยาฆ่าเชื้อ H. Pylori และยาลดกรดในกระเพาะอาหารอย่างต่อเนื่อง
ข้อควรเน้นย้ำ: หากมีอาการปวดท้องรุนแรงอย่างเฉียบพลันและรุนแรงมากผิดปกติ ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที อย่ารอช้าหรือซื้อยาแก้ปวดมารับประทานเอง เพราะการรักษาล่าช้าอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้