การสูบบุหรี่ ขณะจัดฟันใสมีผลกับเครื่องมือจัดฟัน !การจัดฟันแบบใส เป็นการทันตกรรมที่แก้ปัญหาฟันห่าง ฟันซ้อนเก ซึ่งนอกจากนี้ยังเป็นการจัดฟันในรูปแบบที่ทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน รวมไปถึงยังสามารถทราบผลการรักษาได้ล่วงหน้าอย่างแม่นยำ เนื่องจากวิธีการวางแผนการรักษาของทันตแพทย์ จะใช้นวัตกรรมในรูปแบบ 3D ในการวางแผน รวมไปถึงการออกแบบเครื่องมือจัดฟันเฉพาะบุคคล ให้มีความพอดีกับช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา โดยเครื่องมือจัดฟันแบบใสนี้สามารถทำให้ฟันของผู้เข้ารับการรักษาจัดเรียงได้สวยงาม โดยที่มองเห็นเครื่องมือการจัดฟันได้ยาก ทำให้การจัดฟันแบบใส
จึงเป็นการจัดฟันที่ดีเป็นธรรมชาติ ต่างจากการจัดฟันแบบทั่วไปที่ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องใส่เหล็กจัดฟัน ซึ่งโดยเครื่องมือจัดฟันแต่ละชุดจะค่อยๆจัดช่วยเรียงฟันอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งการจัดฟันแบบใส เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันเพียงเล็กน้อย หรือผู้เข้ารับการรักษาที่เคยจัดฟันมาก่อนแต่ไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำ ตามที่ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาแนะนำ ทั้งนี้การจัดฟันแบบใส ยังมีข้อจำกัดหลายๆเรื่อง ถึงแม้ว่าจะสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ ขณะรับประทานอาหาร หรือขณะแปรงฟัน แต่อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมา หากไม่ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดื่มเครื่องดื่มขณะสวมใส่เครื่องมือจัดฟัน หรือการรับประทานอาหารขณะใส่เครื่องมือ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลต่อเครื่องมือการจัดฟันโดยตรง และเครื่องมือก็เป็นปัจจัยสำคัญในการจัดฟันแบบใส เพราะเป็นส่วนช่วยทำให้ฟันของผู้เข้ารับการรักษาจัดเรียงตัวกันได้อย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้แล้ว การสูบบุหรี่ หลายคนจัดฟันแล้วก็มีการสูบบุหรี่ ในข้อนี้หากหลีกเลี่ยงได้ ก็จะเกิดผลดีเป็นอย่างมาก สังเกตได้จาก หากผู้เข้ารับการรักษาเลิกสูบบุหรี่ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส หากสูบบุหรี่ ขณะใส่เครื่องมือ ก็จะส่งผลต่อเครื่องมือได้เช่นกัน อาจจะทำให้เครื่องมือเกิดเปลี่ยนสี และทำให้เกิดคราบบนเครื่องมือจัดฟัน เวลาใส่เครื่องมือจะทำให้ฟันดูมีสีที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตาม เครื่องมือจัดฟันที่ออกแบบมาพิเศษตามรูปฟันแต่ละคนนั้น จะต้องทำการเปลี่ยนชุดเครื่องมือจัดฟันทุก 2 สัปดาห์ ซึ่งจำนวนชุดเครื่องมือที่ใช้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของผู้เข้ารับการรักษา และการวางแผนของทันตแพทย์ผู้ทำการรักษา นอกจากนี้ทางผู้เข้ารับการรักษาเองก็จะต้องปฏิบัติตัวตามคำสั่งของทันตแพทย์ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ขณะใส่เครื่องมือ หรือถ้าหากงดบุหรี่ไปเลย ก็จะดีมาก เพราะการสูบบุหรี่นอกจากนี้จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันอีกด้วย อาจจะทให้เกิดการติดเชื้อ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับสุขภาพเหงือกตามมาได้
ถึงแม้ว่าการจัดฟันแบบใส จะมีค่าใช้จ่ายในการจัดฟันที่ค่อนข้างสูง หากเทียบกับผลลัพธ์และความสะดวกสบายในช่วงเวลาที่จัดฟัน ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ทั้งยังช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้น เนื่องจากสามารถถอดเครื่องมือออกได้ ขณะทำความสะอาดฟัน จึงสามารถแปรงฟันได้สะอาดอย่างเต็มที่ทุกซอกทุกมุม พร้อมทั้งยังสามารถใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันได้อีกด้วย สำหรับระยะเวลาในการจัดฟันแบบใสนั้น อยู่ที่ 9 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของผู้เข้ารับการรักษา และจำนวนชุดเครื่องมือการจัดฟัน แต่ถ้าหากผู้เข้ารับการรักษามีปัญหาฟันเพียงเล็กน้อย และใช้เครื่องมือน้อยชิ้นคือ ไม่เกิน 7 ชิ้น อาจใช้เวลาจัดฟันน้อยกว่า 6 เดือนก็ได้
หากคุณสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ทางคลีนิคเรามีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟัน พร้อมทั้งยังได้รับการรับรองจากสถาบันที่สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงทางคลีนิคยังมีการบริการเกี่ยวกับทางด้านการทันตกรรมที่ครบวงจร มีความเป็นมืออาชีพ เรายินดีให้คำแนะนำในการจัดฟันแบบใส หรือปัญหาสุขภาพฟันอย่างอื่น ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ของทางคลีนิคที่จะคอยให้คำปรึกษาในเรื่องของค่าใช้ในการจัดฟัน เพื่อให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกด้วย
%20TPCC2.jpg)
.png){kind=logo}
